An Unbiased View of เส้นเลือดฝอยที่ขา
An Unbiased View of เส้นเลือดฝอยที่ขา
Blog Article
พอร์ตเคมีบำบัด ลดความบอบช้ำ เส้นเลือดไม่เปราะแตก
การสัมผัสแสงเป็นเวลานาน ๆ ก็อาจทำให้เกิดเส้นเลือดฝอยที่ใบหน้าได้ด้วย
สำหรับในรายที่มีภาวะแทรกซ้อนร่วมด้วยดังกล่าว การส่งตรวจพิเศษจะเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อช่วยในการวางการรักษาได้อย่างถูกต้อง (การส่งตรวจพิเศษโดยทั่วไปสามารถตรวจได้ในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ เช่น โรงพยาบาลประจำจังหวัด โรงพยาบาลที่เป็นสังกัดของโรงเรียนแพทย์ เป็นต้น) ซึ่งการตรวจพิเศษเพิ่มเติมนั้นมีดังนี้
เส้นเลือดขอดแตกเป็นเส้น ๆ ขนาดเล็ก คล้ายใยแมงมุมตำแหน่งจะอยู่ตื้น มีสีม่วงหรือแดง จัดเป็นระดับที่รุนแรงน้อยที่สุด เพราะมองเห็นได้ลาง ๆ และแทบไม่มีอาการเจ็บ ปวด หรือเมื่อยล้าบริเวณที่เป็น
การรักษาเส้นเลือดขอดที่ขา มีอยู่หลายวิธี ดังนี้
ออกกำลังกาย การเดินเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการช่วยให้การไหลเวียนของเลือดบริเวณขาดีขึ้น
การตรวจวินิจฉัยโรคเส้นเลือดขอดโดยทั่วไป ได้แก่
ควบคุมน้ำหนักเพื่อไม่ให้เกิดโรคอ้วนและน้ำหนักตัวเกิน
แพทย์สามารถวินิจฉัยโรคเส้นเลือดขอดได้จากการซักประวัติอาการและการตรวจร่างกาย (โดยเฉพาะการตรวจเห็นเส้นเลือดขอดที่ขา ซึ่งก็จะเป็นตัวช่วยวินิจฉัยโรคนี้ได้ ซึ่งแพทย์จะตรวจดูเส้นเลือดขอดทั้งท่ายืนและท่านอน) โดยไม่มีความจำเป็นต้องตรวจพิเศษอื่น ๆ เพิ่มเติม ยกเว้นในรายที่แพทย์คิดว่ามีภาวะแทรกซ้อน เช่น ผู้ป่วยมีแผลเรื้อรังที่ขา ขาบวม เคยมีประวัติการถูกยิงหรือถูกแทงที่ขา มีเส้นเลือดที่ขาข้างเดียวในขณะที่ขาอีกข้างยังปกติ มีเส้นเลือดขอดเกิดขึ้นตั้งแต่วัยเด็ก มีกระดูกหักนำมาก่อนที่จะมีเส้นเลือดขอด เป็นต้น
คำแนะนำในการดูแลตนเองเมื่อเป็นโรคเส้นเลือดขอด โดยเฉพาะในผู้ที่เริ่มเป็นหรือมีอาการเพียงเล็กน้อย แนะนำให้ปฏิบัติดังนี้ หลีกเลี่ยงการยืนหรือนั่งเป็นเวลานาน ๆ แต่ถ้าจำเป็นก็ต้องขยับขา เหยียดขา เส้นเลือดฝอยที่ขา หรือลุกเดินบ่อย ๆ และในขณะนั่งให้บริหารข้อเท้าตามเข็มและทวนเข็มนาฬิกาสลับกัน และเหยียดเท้าและกระดกเท้าสลับกันไป
ข้อห้ามในการรักษาด้วยการฉีดยาเข้าเส้นเลือดดำ คือ การมีประวัติการแพ้สารที่ใช้ฉีด, มีเส้นเลือดอักเสบ, เส้นเลือดขอดมีขนาดใหญ่ร่วมกับปัญหาเส้นเลือดดำส่วนลึก
คนอ้วนหรือผู้ที่มีน้ำหนักตัวเกิน (สูงเกินค่ามาตรฐาน) เพราะโรคอ้วนและน้ำหนักตัวเกินจะเพิ่มความดันในช่องท้องให้สูงขึ้น
อาจทำให้เกิดแผลบริเวณขาและเท้าได้ง่าย ซึ่งแผลที่เกิดจะหายได้ช้า เนื่องจากการไหลเวียนของเลือดไม่ดี และถ้าแผลมีเลือดออก เลือดก็มักจะออกมากและหยุดไหลช้าเนื่องจากการมีความดันในเส้นเลือดดำที่สูงกว่าปกติ
เพศ เพศหญิงมีโอกาสเกิดโรคสูงกว่าเพศชาย